การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม
E1 ประสิทธิภาพของกระบวนการหมายถึง
ประเมินพฤติกรรมย่อยๆจากการทำกิจกรรมของผู้เรียนในบทเรียนทุกกิจกรรม (ทุกกรอบ/ข้อ) หรือจากการที่นักเรียนได้อ่านบทเรียนถูกมากน้อยเพียงใดนั่นเอง
E2
ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ หมายถึง การประเมินผลลัพธ์ (Product)
ของนักเรียนโดยพิจารณาจากผลการทดสอบหลังเรียน (Post-test)
ในการเขียนประสิทธิภาพของนวัตกรรมนั้นมักเขียนในลักษณะของ
E1 / E2 เช่น
70/70, 80/80, 90/90 เป็นต้น
การกำหนดเกณฑ์
E1 / E2 ให้มีค่าเท่าใด ควรกำหนดไว้ก่อนว่าในครั้งนี้ว่าจะให้มาตรฐานหรือเกณฑ์มาตรฐานเท่าใด โดยยึดเกณฑ์ในการพิจารณากำหนดเกณฑ์มาตรฐาน
ดังนี้
1.เนื้อหาวิชาที่เป็นความรู้
ความจำ ควรตั้งเกณฑ์ให้สูงไว้ คือ 80/80,
85/85,
2.เนื้อหาวิชาที่เป็นทักษะหรือเจตคติ
ควรตั้งเกณฑ์ให้ต่ำลงมาเล็กน้อย คือ 70/70,
75/75 แต่อาจตั้งเกณฑ์สูงกว่านี้ก็ได้
1. สูงกว่าเกณฑ์ คือ ตั้งเกณฑ์ E1 / E2 ไว้แล้วได้ค่าประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เช่น ตั้งเกณฑ์มาตรฐานไว้ 90/90
แล้วคำนวณค่าประสิทธิภาพบทเรียนสำเร็จรูปได้ 95/95
2. เท่าเกณฑ์ คือ ตั้งเกณฑ์ E1
/ E2 ไว้แล้วได้ค่าประสิทธิภาพเท่ากับเกณฑ์ที่ตั้งไว้พอดี เช่น ตั้งเกณฑ์มาตรฐานไว้ 90/90
แล้วคำนวณค่าประสิทธิภาพบทเรียนสำเร็จรูปได้ 90/90
3. ต่ำกว่าเกณฑ์ คือ ตั้งเกณฑ์ E1
/ E2 ไว้แล้วได้ค่าประสิทธิภาพต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ไม่เกิน + 2.5
%
นอกจากจะวัดประสิทธิภาพของนวัตกรรมแล้ว
ผู้พัฒนาฯจะต้องพิจารณาประสิทธิผล ซึ่งเป็นความสามารถในการให้ผลอย่างชัดเจน แน่นอน
ของนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้น ซึ่งนิยมวิเคราะห์และแปลผลได้ 2 วิธี
คือ
1.จากการพิจารณาผลของการพัฒนาด้วยการเปรียบเทียบระหว่างจุดเริ่มต้น
และจุดสุดท้ายด้วยการ pretest และ posttest เปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของคะแนนก่อนและหลังการใช้นวัตกรรมโดยใช้สถิติ ที(t-test)แบบกลุ่มสัมพันธ์ ซึ่งจะทำให้นำไปอ้างอิงถึงกลุ่มอื่น ๆ ห้องอื่น ๆ
และในรุ่นหลัง ๆ ด้วย (มุ่งขยายผล)
จึงต้องวิเคราะห์โดยใช้การทดสอบสมมติฐานด้วยการสถิติเชิงอนุมานเพื่อการอ้าง
อิงไปยังประชากร
2.
จากการหาดรรชนีประสิทธิผล (Effective Index) ซึ่งอยู่ในรูปอัตรส่วนดังสูตรต่อไปนี้
ดรรชนีประสิทธิผล = (ผลรวมของคะแนนหลังเรียนทุกคน -
ผลรวมของคะแนนก่อนเรียนทุกคน) หารด้วย
(จำนวนนักเรียนxคะแนนเต็ม -
ผลรวมของคะแนนก่อนเรียนทุกคน)
แหล่งที่มา
http://ird.rmuti.ac.th/newweb/fmanager/files/7.padungchai.doc
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น