นิยามและลักษณะของสังคมโลกและภูมิภาค
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (2558)
ได้กล่าวว่า สังคมโลก หมายถึง ความสัมพันธ์ระหว่างกันของมนุษย์ที่อยู่ในประเทศต่างๆ
ในโลก เมื่อพิจารณาวิวัฒนาการของสังคมโลกพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญแบ่งเป็น 3 ยุค
คือ ยุคเกษตรกรรม ยุคอุตสาหกรรม และยุคสังคมเทคโนโลยี
สังคมโลกปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับระบบการค้าเสรี สิ่งแวดล้อม
ระบอบประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน เมื่อผนวกกับกระแสโลกาภิวัฒน์
สภาพสังคมโลกในด้านเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวขึ้น
แต่ประเทศที่พัฒนาแล้วในการกีดกันทางการค้าด้วยมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี
สำหรับด้านการเมือง ระบบการเมืองโลกมีลักษณะขั้วอำนาจเดียว
ส่วนด้านสังคมและวัฒนธรรมเกิดการประสานเป็นหนึ่งเดียวหรือเกิดการปะทะกันทางวัฒนธรรม
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกในอนาคต
จะเกิดช่องว่างทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่ร่ำรวยและประเทศที่ยากจนสูงขึ้น
การเมืองโลกจะเคลื่อนเข้าสู่ระบบหลายขั้วอำนาจ
สังคมและวัฒนธรรมโลกจะก้าวเข้าสู่สังคมแห่งปัญญากิจกรรม (คู่มือผู้นำ.2558.น.)
อัลวิน ทอฟฟเลอร์
นักวิชาการที่มีชื่อเสียงได้วิเคราะห์สถานการณ์ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ในหนังสือคลื่นลูกที่สาม
โดยเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของอารยธรรมโลกเหมือนคลื่นสามลูกซึ่งซ้อนทับกัน
ประกอบด้วย 1) สังคมเกษตรกรรม 2) สังคมอุตสาหกรรม 3) สังคมแห่งเทคโนโลยี
สมชาย
ภคภาสน์วิวัฒน์ (2557)ได้แสดงทัศนะว่า สังคมโลก คือสังคมทีมีประชากรทั่วโลกมี
7 พันล้านคนในทุกๆ 15 ปีเพิ่มขึ้น 1 พันล้านคน เพิ่มขึ้นตลอดเวลา
ปัญหาสังคมที่พูดถึงจึงทำให้ปัญหาทางการเมืองขยายวงกว้างและความซับซ้อนมากขึ้น
ความซับซ้อนของปัญหาที่เชื่อมโยงกับการเมือง เศรษฐกิจ สังคม
จะรุนแรงมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของการศึกษาของสังคม ถ้ามีคุณภาพ
(ไม่ใช่เน้นเชิงปริมาณแบบสังคมไทย) สังคมจะมีการดำเนินนโยบายในลักษณะที่ป้องปราม
และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในลักษณะที่ราบรื่น
แต่สังคมใดมีการศึกษาที่ด้อยคุณภาพและเน้นเชิงปริมาณก็จะแก้ปัญหาแบบวัวหายล้อมคอกและมีการดำเนินนโยบายที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง
ซึ่งนำไปสู่การแย่งชิงผลประโยชน์ที่ทำให้ประชาชนเกิดการแบ่งขั้ว
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
(2557) ได้แสดงความคิดเห็นในเอกสารประกอบการสอนรายวิชาสังคมโลกและภูมิภาค ว่า ปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงในทุกมิติทั้งทางสังคม
เศรษฐกิจการเมืองและเทคโนโลยี อันเป็นผลมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจและการเมืองโลก มีผลทำให้ประเทศต่างๆ
ในโลกต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และมีความเชื่อมโยงระหว่างกันมากขึ้น
โลกที่เคยกว้างใหญ่กลับเล็กลงดินแดนแต่ละประเทศที่อยู่ห่างไกลกัน
สามารถติดต่อกันได้ภายในเวลาเสี้ยววินาทีประดุจเป็นหมู่บ้านเดียวกัน (Global Village) ภูเขาและทะเลซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติที่เคยเป็นอุปสรรคในการติดต่อไปมาหาสู่ดูเสมือนเลือนหายไปจนกลายเป็นโลกไร้พรมแดน
นับจากนี้ต่อไปโลกกา ลังก้าวเข้าสู่ระยะแห่งการเปลี่ยนยุคเปลี่ยนสมัย
การเปลี่ยนผ่านที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์โลกในยุคโลกาภิวัตน์
The Global University Network for Innovation หรือ GUNi (2015) ได้แสดงทัศนะในรายงาน
World Social Forum and new world ว่า ความรู้
ความผูกพันและการศึกษาที่สูงขึ้น จะเอื้อต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมโลก
ในรายงานได้กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของสังคมการศึกษาระดับอุดมศึกษาในโลก ประกอบด้วย
1) แสดงให้เห็นถึงอธิบายและวิเคราะห์แนวคิดปัจจุบันของมหาวิทยาลัยมีส่วนร่วมของชุมชนและความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาคทั่วโลก
2) แสดงให้เห็นถึงวิธีการเชื่อมโยงความรู้กับสังคม
การนำเสนอการปฏิบัติที่แตกต่างกันกลไกและโครงสร้างรวมทั้งผลกระทบของการมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน,
การเรียนรู้, การวิจัยและกิจกรรมของสถาบัน 3) ระบุความแตกต่างและความคล้ายคลึงกันภายในภูมิภาคของโลกที่แตกต่างกัน
แสดงลักษณะระหว่างประเทศและการให้ปัจจุบันแผนที่ดินแดนและใจเกี่ยวกับวิธี 4)
การมีส่วนร่วมกับสังคม
ทางสังคมมีส่วนร่วมในการปฏิบัติที่มีส่วนร่วมและมีปฏิสัมพันธ์รวมทั้งเป็นผู้นำการมีส่วนร่วมและกระบวนการในการตัดสินใจ
5)
เสนอขั้นตอนในการมีส่วนร่วมของความก้าวหน้าการศึกษาระดับสูงที่จะสร้างขึ้นเพียงสังคมที่เป็นธรรมและยั่งยืน
6)
มีเครื่องมือสำหรับผู้ปฏิบัติงานการศึกษาที่สูงขึ้นผ่านตัวอย่างของการปฏิบัติที่ดีนวัตกรรมประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องและหรือโครงการที่จะก้าวไปข้างหน้า
โครงสร้างประกอบด้วย (1) บริบท (2)
ประเด็นที่ทั่วโลกเกี่ยวกับความรู้การมีส่วนร่วมและการศึกษาสูง (3)
การวิจัยเกี่ยวกับความรู้การมีส่วนร่วมและการศึกษาสูง (4) การพัฒนาภูมิภาค (5)
ในอนาคตวิสัยทัศน์และวาระสำหรับการดำเนินการและ (6) การเพิ่มเติม
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าความหมายของสังคมโลกในภาพรวม
คือความสัมพันธ์ระหว่างกันของมนุษย์ที่อยู่ในประเทศต่างๆ ในโลก
และความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศ นอกจากนี้
อาจให้ความหมายของสังคมโลกในแง่มิติด้านกายภาพ
มิติด้านการรวมกลุ่มผลประโยชน์ระหว่างประเทศ มิติด้านอุดมการณ์ทางการเมือง
และมิติด้านลำดับการพัฒนาความเจริญ
โลกวันนี้และในอนาคตจึงเป็นโลกที่ไม่ได้แข่งขันทางเศรษฐกิจ
สังคม
การเมืองเพียงเท่านั้นแต่ยังเป็นโลกของการแข่งขันที่ระบบการคิดซึ่งชี้วัดด้วยคุณภาพของระบบการศึกษาเป็นหลักบทบาทของการศึกษา
เปรียบเทียบสังคมเกษตรกรรม สังคมอุตสาหกรรม และสังคมปัจจุบันที่เรียกว่ายุคความรู้
ไว้ใน ๔ บทบาท อันได้แก่ (๑) เพื่อการทำงานและเพื่อสังคม (๒)
เพื่อฝึกฝนสติปัญญาของตน (๓) เพื่อทำหน้าที่พลเมือง และ (๔)
เพื่อสืบทอดจารีตและคุณค่า
เปรียบเทียบสังคมไทยกับสังคมโลกและภูมิภาค
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
(2552) ได้กล่าวใน รายงานการวิจัยเรื่องภาพการศึกษาไทยในอนาคต 10 - 20 ปี ว่าสภาพปัจจุบันและแนวโน้มของบริบทโลกที่ส่งผลต่อการศึกษาในอนาคต
10 - 20 ปีข้างหน้า ในด้านต่างๆ สังคมโลกในอนาคตที่ส่งผลต่อสังคมไทยจะเป็นสังคม 3
ลักษณะ คือ 1) สังคมแข่งขัน ที่ใช้ความรู้เป็นฐานของการพัฒนาและการแข่งขัน
เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ในยุคเศรษฐกิจสังคมฐานความรู้ 2) สังคมสิทธิมนุษยชน
สิทธิมนุษยชนจะได้รับความสำคัญมากขึ้นในสังคมไทยจากการบังคับใช้กฎหมายที่มีความชัดเจนเพิ่มมากขึ้น
และ 3) สังคมพอเพียง จากสภาวะการแข่งขันและวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจที่จะต่อเนื่องในอนาคตทำให้สังคมไทยต้องหันมาให้ความสำคัญในเรื่องของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างจริงจังเพิ่มมากขึ้น
เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันทางชีวิตและสังคม
เอกกวีร์ พิทักษ์ธนัชกุล (2558) ได้แสดงความเห็นว่า การศึกษาในสังคมโลกยุคปัจจุบัน
นั้นคือ
การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตของเราทุกคน
และเป็นสิ่งที่ทุกคนแสวงหาองค์ความรู้เพื่อมาใช้ในการดำเนินชีวิต การทำงาน
และการสร้างความสำเร็จให้กับชีวิตของเราทุกคน
เราปฏิเสธไม่ได้ว่าการศึกษามีอิทธิพลต่อสังคมโลกในปัจจุบัน ต่างคนต่างแสวงหาหลักสูตร
สถาบัน หรือสถานที่สำคัญเก็บเกี่ยวความรู้นั้น ๆ อย่างจริงจัง
และเป็นที่คาดหวังว่าจะค้นพบตัวตนได้จากการศึกษาในสาขาหรือหลักสูตรนั้น ๆ
ด้วยเช่นกัน
ระบบโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
กระแสโลกาภิวัตน์ได้เข้ามาอิทธิพลต่อหลาย ๆ ประการในสังคม
ไม่เว้นแต่ระบบการศึกษาที่มีการปรับเปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก
เพื่อก่อให้เกิดความทันสมัยในองค์ความรู้
และสอดคล้องต่อผู้ศึกษาและยังมีส่วนช่วยดึงดูดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาและนำองค์ความรู้ไปใช้เพื่อเกิดประโยชน์ต่อไป
กระทรวงศึกษาธิการ (2557) ได้แสดงทัศนะว่า
ในปัจจุบันสภาพสังคมไทยเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม
การเมืองและเทคโนโลยี
เด็กเป็นสมาชิกหนึ่งของสังคมย่อมที่จะต้องเรียนรู้ในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่างๆ
สำหรับสังคมไทยก่อนปี พ.ศ. 2558 จะต้องเตรียมความพร้อมตนเองเพื่อก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียนซึ่งจะรวมตัวกันในปี
2558 เพื่อร่วมมือกันสร้างความแข็งแกร่งให้กับสมาชิกอาเซียน
เด็กปฐมวัยคือพลเมืองของประเทศไทย จึงได้รับผลกระทบเรื่องนี้เช่นกัน
ซึ่งการเตรียมตัวที่ดีที่สุดคือการให้การศึกษา แก่ประชาชน เพราะการศึกษาจะช่วยให้คนเกิดการเรียนรู้ที่จะปรับตัว
ดังพระบรมราโชวาทของพระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันทรงพระราชทานแก่คณะครูและนักเรียน ณ
พระตำหนักจิตรดารโหฐาน เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2518 ความว่า “ปัจจัยสำคัญที่สุดประการหนึ่งของชีวิตและส่วนรวม
คือ การศึกษา ซึ่งเป็นรากฐานส่งเสริมความเจริญมั่นคงเกือบทุกอย่างในบุคคลและประเทศชาติ”
ดังนั้นการให้เด็กไทยได้ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนจึงเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อทำความเข้าใจเรื่องของมนุษยชาติ
ความเข้าใจนานาชาติ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สังคมวิทยา หน้าที่พลเมือง
ประวัติศาสตร์ สิ่งแวดล้อม และภาษา ซึ่งการสอนสังคมสมัยใหม่นั้น
ต้องสอนเพื่อการรู้เท่าทันการเปลี่ยน แปลงสังคม และนวัตกรรม
แนวคิดร่วมสมัยที่ควรนำมาใช้พัฒนาเด็กคือ
ความเข้าใจเรื่องอาเซียนและการศึกษาเพื่อความเข้า ใจระหว่างวัฒนธรรม
ส่วนสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญ ชุมชน
พ่อแม่ผู้ปกครองร่วมกันกำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของเด็กไทยให้สอดรับกับประชาคมอาเซียนว่า
เด็กไทยควรมีทั้งด้านความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน ดังนี้
1) ด้านทักษะพื้นฐาน เช่น
พูดภาษาได้อย่างน้อย 2 ภาษาคือ ภาษาอังกฤษและภาษาเพื่อนบ้าน
2) มีทักษะพลเมือง ได้แก่
เคารพและยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม
3) มีทักษะการเรียนรู้และพัฒนาตน
ได้แก่ เห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน
4) ด้านเจตคติ
ให้มีความตระหนักในความเป็นอาเซียน มีความภูมิใจในความเป็นไทย เป็นต้น
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (2557)ได้กล่าวว่า
สภาพสังคมไทยในปัจจุบันมีแนวโน้มประชากรสูงขึ้นโครงสร้างประชากรเปลี่ยนแปลง จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น
แต่วัยเด็กหรือวัยหนุ่มสาวมีจำนวนลดลง ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากการใช้แรงงานคนจำนวนมากเป็นระบบเศรษฐกิจที่ใช้แรงงานความรู้
ในขณะที่การเมืองมีการขยายสิทธิและเสรีภาพเป็นประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม
ส่วนสภาพสังคมมีระดับความยากจนสูงขึ้น และได้รับอิทธิพลกระแสวัฒนธรรมจากต่างชาติ ทำให้เกิดค่านิยมวัตถุนิยมและบริโภคนิยม
ซึ่งก่อให้เกิดปัญหานานัปการ รวมทั้งทำให้วัฒนธรรมไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่นสูญหาย
ทั้งนี้เพื่อความอยู่รอดของสังคมไทยในปัจจุบันจำต้องปรับเปลี่ยนเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้
ที่คนในสังคมต้องเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้
เพื่อให้การเรียนรู้เป็นกระบวนการต่อเนื่องตลอดชีวิต เพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือตนเองและพึ่งตนเองได้
เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคมโดยรวม
เอกกวีร์ พิทักษ์ธนัชกุล (2558) ประเทศไทยทุกวันนี้ผู้ศึกษาสามารถเข้าถึงระบบการศึกษาได้ง่ายขึ้น
เช่น ระบบการสมัครออนไลน์ การสมัครผ่านไปรษณีย์ และอื่นๆ
อีกหลายวิธีที่จะเข้าถึงระบบการศึกษาสถาบันการศึกษามีการปรับเปลี่ยนบทบาทเป็นอย่างมาก
มีการนำเทคโนโลยีมาใช้อำนายความสะดวกสำหรับผู้ศึกษา เช่น ระบบลงทะเบียนออนไลน์
ระบบการแจ้งผลการเรียนออนไลน์ เป็นต้น
การพัฒนาหลักสูตรหรือปรับปรุงหลักสูตรก็เป็นอีกประการสำคัญที่จะเป็นที่ดึงดูดผู้ที่สนใจศึกษาให้เข้ามาศึกษาแล้ว
ยังมีการพัฒนาบุคลากรในหลากหลายวิชาชีพให้สอดคล้องกับหลักสูตรและความต้องการของสังคม
รวมถึงเพื่อใช้สำหรับงานที่ผู้ศึกษาคาดหวังในการประกอบอาชีพในอนาคต
ทุกวันนี้ผู้ศึกษาสามารถเข้าถึงแหล่งเทคโนโลยีเพื่อใช้ประโยชน์ต่อการศึกษา
การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารสามารถทำได้อย่างง่ายดาย
เช่นผ่านทางอุปกรณ์อย่างโทรศัพท์มือถือแท็บเล็ต หรืออื่นๆ อีกมากมาย
ที่จะช่วยให้ผู้สนใจศึกษาสามารถค้นหาข้อมูลได้ด้วยตนเอง โดยไม่จำกัดเวลา
และสถานที่ ที่มีความแตกต่างเหมือนแต่ก่อน
ที่การศึกษาจะอยู่ในชั้นเรียนหรือในสถานที่ที่ใช้สำหรับศึกษาหาความรู้อย่างเช่นห้องสมุดเท่านั้น
มหาวิทยาลัยเปิดเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญสำหรับการศึกษาในยุคปัจจุบัน
ที่เน้นให้ผู้เรียนสามารถศึกษาหาความรู้ได้อย่างไม่จำกัดเวลา และสถานที่
อีกทั้งยังอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ศึกษาสามารถเลือกสถานที่สอบหรือเวลาได้เอง
โดยไม่ยึดติดกับการระบบการศึกษารูปแบบเดิม การศึกษาลักษณะนี้ เป็นการศึกษาตามอัธยาศัยและโดยเสรีทำให้ผู้ศึกษารู้สึกผ่อนคลายกับความตึงเครียดในการเรียน
อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาอย่างเต็มที่ ซึ่งในมหาวิทยาลัยเปิดในปัจจุบันอย่าง
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช หรือ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งกระแสโลกาภิวัตน์ปัจจุบัน
เวลาเป็นสิ่งที่สำคัญต่อทุกคนเป็นอย่างมาก
ทำให้กระแสตอบรับในมหาวิทยาลัยเปิดถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมากและประการสำคัญสิ่งที่ผู้ศึกษาจะได้จากระบบมหาวิทยาลัยเปิดนี้
คือ ความอดทด และความมีระเบียบวินัยในการศึกษาเป็นอย่างมาก
เพราะถือว่ามหาวิทยาลัยได้เปิดโอกาสให้สามารถศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองผ่านช่องทางต่าง
ๆ และผู้เรียนต้องจัดสรรเวลาว่างของตนเพื่อเอาใจใส่ต่อการเรียน
ทำให้ผู้ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเปิด ได้รับการยอมรับจากตลาดงานที่ต่างชมว่า
บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเปิดมีความอุตสาหะ ขยัน และมีความพากเพียรต่อการทำงานเป็นอย่างมาก
อดทนต่อภาวะกดดันหรือภาวะต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ประการนี้เองที่เป็นสิ่งสำคัญที่สังคมต้องการคือ
แม้ว่าผู้เรียนจะไม่เก่งแต่ขอให้สามารถทำงานได้ออกมาเป็นอย่างดี
และสร้างประโยชน์ต่อการทำงานได้ต่อไปอนาคต
สังคมโลกทุกวันนี้ คือ ยุคสังคมความรู้ ในการศึกษาสำหรับสังคมโลกที่แตกต่างกันมากหากเราต้องการให้สังคมไทยดำรงศักดิ์ศรี
และคนไทยสามารถอยู่ในสังคมโลกได้อย่างมีความสุข
การศึกษาไทยต้องก้าวไปสู่เป้าหมายในยุคความรู้ไม่ใช่ย่ำเท้าอยู่กับเป้าหมายในยุคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม
นี่จึงเป็นจุดท้าทายครูเพื่อศิษย์
และเป็นเข็มทิศนำทางครูเพื่อศิษย์ให้ได้สนุกสนานและมีความสุขในการทำงานอย่างมีเป้าหมายเพื่อชีวิตที่ดีของศิษย์ในโลกยุคความรู้
และนักเรียนต้องมีทักษะของนักเรียนในศตวรรษที่ 21
แหล่งอ้างอิง
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
(2558) ไทยกับสังคมโลก
(Thailand
and the World community) พิมพ์ครั้งที่ 16 พ.ศ.
2555 http://lovemeena.com/book/thai_and_theworld.php
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (2557) วารสารคณะศึกษาศาสตร์ประจำปี
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (2557) วารสารคณะศึกษาศาสตร์ประจำปี
ศึกษาธิการ, กระทรวง. ( 2546
). คู่มือหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546 .กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภา
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (2552)
http://www.onec.go.th/onec_web/page.php?mod=Newseducation&file=view&itemId=1264
The Global University Network for Innovation
(GUNi)
http://www.guninetwork.org/resources/he-articles/th-guni-world-report-knowledge-engagement-and-higher-education-contributing-to-social-change