ทักษะสมองเพื่อชีวิตที่สำเร็จ =
Executive Functions (EF)
คือ
กระบวนการในสมองส่วนหน้าของมนุษย์ทุกคน ที่ใช้ในการคิด รู้สึก และกำหนดการกระทำ ซึ่งได้รับการฝึกฝนพัฒนาจนเป็นทักษะสมอง ทำให้“คิดเป็น
ทำเป็น เรียนรู้เป็น แก้ปัญหาเป็น อยู่กับคนอื่นเป็น และมีความสุขเป็น” ซึ่งเป็นทักษะที่มีความสำคัญยิ่งยวด ทั้งต่อความสำเร็จในการ
เรียน การทำงานอาชีพ การเห็นคุณค่าในตนเอง
และการสร้างสัมพันธภาพกับคนอื่นๆต่อไปตลอดชีวิต
EF มีองค์ประกอบ 9 ด้าน จัดเป็น 3 กลุ่มทักษะ (3 X 3) ได้แก่
กลุ่มทักษะพื้นฐาน
1. Working
memory = ความจำที่นำมาใช้งาน หรือ
ความสามารถในการเก็บประมวล
และดึงข้อมูลที่เก็บในคลังสมองออกมาใช้ตามสถานการณ์ที่ต้องการ
2. Inhibitory
Control = ความสามารถในการยั้งคิดไตร่ตรองควบคุมแรงอยากหยุดคิดก่อนที่จะทำหรือพูด
3. Shiftingหรือ
Cognitive Flexibility = ความสามารถในการยืดหยุ่นพลิกแพลงปรับตัว
เป็นจุดตั้งต้นของการคิดนอกกรอบคิดสร้างสรรค์
กลุ่มทักษะกำกับตนเอง
1. Focus
Attention = ความสามารถในการใส่ใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่งๆ
โดยไม่วอกแวก
2. Emotional
Control = ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
จัดการกับอารมณ์ไม่ให้รบกวนผู้อื่น ไม่โกรธเกรี้ยวฉุนเฉียว ขี้หงุดหงิดง่าย
3. Self-Monitoring
= คือ การประเมินตนเองรวมถึงสะท้อนผลการทำงาน
เพื่อหาจุดบกพร่อง แล้วแก้ไขพัฒนาให้ดีขึ้น
กลุ่มทักษะปฏิบัติ
1. Initiating
= ความสามารถในการริเริ่มและลงมือทำ กล้าคิดกล้าทำ
ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
2. Planning
and Organizing = การวางแผนและดำเนินการตั้งแต่ตั้งเป้าหมาย
เห็นภาพรวม จัดลำดับความสำคัญ จัดระบบ จนถึงการดำเนินการ และประเมินผล
3. Goal-
Directed Persistence = ความพากเพียรให้บรรลุเป้าหมายมุ่งมั่น
ฝ่าฟันอุปสรรคและล้มแล้วลุกได้
ทักษะเหล่านี้ต้องได้รับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอในชีวิตประจำวัน ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน เพื่อให้เกิดการ “ฝังชิป”เป็นโครงสร้างในสมองของเด็ก โดยเฉพาะในวัย 3-6 ปี ซึ่งเมื่อฝังตัวแล้วก็จะคงอยู่เป็นนิสัยหรือคุณสมบัติของบุคคลไปตลอดชีวิต
การอ่านเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของการส่งเสริม EF ในเด็ก
ในกระบวนการที่ผู้ใหญ่อ่านหนังสือให้ฟังนั้นมีทักษะ EF หลายด้านพัฒนาขึ้นในสมองของเด็กเสมอ ได้แก่ การจดจ่อตั้งใจฟัง (Attention) เด็กต้องยั้งใจตนจากการไปทำกิจกรรมอย่างอื่น (Inhibitory Control) เด็กได้คิด รู้สึก หรือจินตนาการไปตามเนื้อหา โดยนำข้อมูลใหม่ไปเชื่อมโยงกับข้อมูลเดิมในสมอง (Working Memory) หากข้อมูลใหม่แตกต่างไปจากข้อมูลเดิม เด็กอาจเกิดการปรับเปลี่ยนความคิด (Cognitive Flexibility) ยามที่นิ่งฟัง ภาวะอารมณ์ของเด็กจะสงบ หรือไหลลื่นไปตามท้องเรื่อง (Emotional Control) บางครั้งเนื้อหาอาจพาให้เด็กได้สะท้อนคิดกลับมาถึงตนเอง (Self- Monitoring)
นอกจากกระบวนการอ่านที่ส่งเสริมทักษะสมอง EF เป็นพื้นฐานแล้ว เนื้อหาของหนังสือเด็กแต่ละเล่ม ยังอาจมีจุดหมายเฉพาะเพื่อส่งเสริมสร้างลักษณะนิสัยด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งสอดคล้องกับพัฒนาทักษะ EF เพิ่มเติมขึ้นไปอีก เช่น หนังสือที่มุ่งส่งเสริมการคิดไตร่ตรอง การกล้าคิดริเริ่ม การวางแผนการงานหรือการมีความมุ่งมั่นพากเพียร เป็นต้น
ผู้ใหญ่จึงควรอ่านหนังสือเล่มนั้นๆ ให้เข้าใจ ก่อนที่จะอ่านให้เด็กฟัง เพื่อเข้าถึงสาระ จุดหมาย หรือกระบวนการที่มีทักษะสมองEF สอดแทรกอยู่จะได้อ่านให้เด็กฟังอย่างมีอรรถรสนำไปสู่การพัฒนา EF ได้อย่างมีชีวิตชีวา และเมื่ออ่านแล้ว ผู้ใหญ่ควรตั้งคำถาม ชวนเด็กคิด วิเคราะห์ หรือจินตนาการไปกับเรื่องราวในหนังสือ อย่างแยบคาย มิใช่เพื่อทบทวนความจำหรือตอบให้ตรงเนื้อเรื่องเท่านั้น หากเพื่อให้เรื่องราวในหนังสือนำไปสู่การคิดค้น สร้างสรรค์ เติมเต็มประสบการณ์ให้หลากหลายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ หลังอ่านหนังสือ ผู้ใหญ่อาจพัฒนากิจกรรมที่สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง หรือใช้กิจกรรมที่ผู้เขียนแนะนำไว้ท้ายเล่ม มาให้เด็กได้ลงมือทำในหลากหลายรูปแบบก็จะเป็นการฝึกฝนสร้างเสริมทักษะสมอง EF ด้านต่างๆ ของเด็กให้เกิดการเรียนรู้และแข็งแรงยิ่งขึ้น
Executive Functions -EF ทักษะสมองเพื่อชีวิตที่สำเร็จ
www.rlg-ef.com หรือ www.facebook.com/พัฒนาทักษะสมอง EF
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น